เมนู

6. บุญกิริยาวัตถุสูตร


[126] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุญกิริยาวัตถุ 3 ประการนี้
3 ประการเป็นไฉน คือ บุญกิริยาวัตถุสำเร็จแล้วทาน 1 บุญกิริยา
วัตถุสำเร็จด้วยศีล 1 บุญกิริยาวัตถุสำาเร็จด้วยภาวนา ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วย
ทานนิดหน่อย ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีลนิดหน่อย ไม่เจริญ
บุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนาเลย เมื่อตายไป เขาเข้าถึงความ
เป็นผู้มีส่วนชั่วในมนุษย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบุญกิริยาวัตถุ
ที่สำเร็จด้วยทานพอประมาณ ทำบุญกิริยาวัตถุสำเร็จด้วยศีลพอ
ประมาณ ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนาเลย เมื่อตายไป
เขาเข้าถึงความเป็นผู้มีส่วนดีในมนุษย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบุญกิริยา
วัตถุที่สำเร็จด้วยทานมีประมาณยิ่ง ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วย
ศีลมีประมาณยิ่ง ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนาเลย
เมื่อตายไป เขาเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นจาตุมมหาราช
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาราชทั้ง 4 ในชั้นนั้น ทำบุญกิริยาวัตถุที่
สำเร็จด้วยทานเป็นอดิเรก ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีลเป็น
อดิเรก ย่อมก้าวล่วงเทวดาชั้นจาตุมมหาราชโดยฐานะ 10 ประการ
คือ อายุทิพย์ วรรณทิพย์ สุขทิพย์ ยศทิพย์ อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์
เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์ โผฏฐัพพทิพย์.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบุญกิริยา
วัตถุที่สำเร็จด้วยทานมีประมาณยิ่ง ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จ
ด้วยศีลมีประมาณยิ่ง ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนา
เลย เมื่อตายไป เขาเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพในชั้นดาวดึงส์นั้น กระทำ
บุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยทานเป็นอดิเรก ทำบุญกิริยาวัตถุที่
สำเร็จด้วยศีลเป็นอดิเรก ย่อมก้าวล่วงพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์โดย
ฐานะ 10 ประการ คือ อายุทิพย์ ฯลฯ โผฏฐัพพทิพย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบุญกิริยา
วัตถุที่สำเร็จด้วยทานมีประมาณยิ่ง ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีล
มีประมาณยิ่ง ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนาเลย เมื่อ
ตายไป เขาเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นยามา ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ท้าวสุยามเทพบุตรในชั้นยามานั้น ทำบุญกิริยาวัตถุที่
สำเร็จด้วยทานเป็นอดิเรก ทำบุญกิริยาที่สำเร็จด้วยศีลเป็นอดิเรก
ย่อมก้าวล่วงเทวดาชั้นยามาโดยฐานะ 10 ประการ คือ อายุทิพย์ ฯลฯ
โผฏฐัพพทิพย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบุญกิริยา
วัตถุที่สำเร็จด้วยทานมีประมาณยิ่ง ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วย
ศีลมีประมาณยิ่ง ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนาเลย
เมื่อตายไป เขาเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดุสิต ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ท้าวสันดุสิตเทพบุตรในชั้นดุสิตนั้น ทำบุญกิริยา
วัตถุที่สำเร็จด้วยทานเป็นอดิเรก ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีล

เป็นอดิเรก ย่อมก้าวล่วงเทวดาชั้นดุสิตโดยฐานะ 10 ประการ คือ
อายุทิพย์ ฯลฯ โผฏฐัพพทิพย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบุญกิริยาวัตถุ
ที่สำเร็จด้วยทานเป็นอดิเรก ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีลเป็น
อดิเรก ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนาเลย เมื่อตายไป
เขาเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นนิมมานรดี ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ท้าวสุนิมมิตเทพบุตรไม่ชั้นนิมมานรดีนั้น ทำบุญกิริยา
วัตถุที่สำเร็จด้วยทานเป็นอดิเรก ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีล
เป็นอดิเรก ย่อมก้าวล่วงเทวดาชั้นนิมมานรดีโดยฐานะ 10 ประการ
คือ อายุทิพย์ ฯลฯ โผฏฐัพพทิพย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบุญกิริยา
วัตถุที่สำเร็จด้วยทานมีประมาณยิ่ง ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จ
ด้วยศีลมีประมาณยิ่ง ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนาเลย
เมื่อตายไป เขาเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตสวัตตี
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวปรมิมมิตวสวัตตีเทพบุตรในชั้นปรนิม-
มิตวสวัตตีนั้น ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยทานเป็นอดิเรก ทำบุญ
กิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีลเป็นอดิเรก ย่อมก้าวล่วงเทวดาชั้นปรนิม-
มิตวสวัตตีนั้นโดยฐานะ 10 ประการ คือ อายุทิพย์ วรรณทิพย์ สุขทิพย์
ยศทิพย์ อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์ เตียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์
โผฏฐัพพทิพย์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุญกิริยาวัตถุ 3 ประการนี้แล.
จบ บุญกิริยาวัตถุสูตรที่ 6

อรรถกถาบุญกิริยาวัตถุสูตรที่ 6


บุญกิริยาวัตถุสูตรที่ 6

มิวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
การทำบุญนั้นด้วย เป็นที่ตั้งแห่งอานิสงส์นั้น ๆ ด้วย เพราะ
ฉะนั้น จึงชื่อว่า บุญกิริยาวัตถุ. จริงอยู่ สัตว์ทั้งหลายตั้งจิตไว้
ในลักษณะแห่งทานเป็นต้น แล้วคิดว่า ชื่อว่า ทานเห็นปานนี้พวกเรา
ควรให้ ควรรักษาศีล ควรเจริญภาวนา ดังนี้แล้วจึงทำบุญ. ทาน
นั้นแหละ ชื่อว่า ทานมัย อีกอย่างหนึ่ง บรรดาทานเจตนา สันนิฏ-
ฐาปกเจตนา อันสำเร็จมาแต่เจตนาที่ตกลงใจ เจตนาดวงแรกชื่อว่า
ทานมัย เหมือนวัตถุที่สำเร็จมาแต่แป้งเป็นต้นก็สำเร็จด้วยแป้ง
เป็นต้นฉะนั้น. แม้ใน 2 บทที่เหลือก็นัยนี้เหมือนกัน.
บทว่า ปริตฺตํ กตํ โหติ ความว่า เป็นอันเขากระทำน้อย
คือนิดหน่อย. บทว่า นาภิสมฺโภติ แปลว่า ย่อมไม่สำเร็จผล. บทว่า
อกตํ โหติ ความว่า ไม่ได้เริ่มความเพียรในภาวนาเลย. บทว่า
มนุสฺสโทภคฺยํ ได้แก่ ตระกูลต่ำ 5 ตระกูลอันเว้นจากสมบัติใน
มนุษย์ทั้งหลาย. บทว่า อุปฺปชฺชติ ได้แก่ ย่อมเข้าถึงด้วยอำนาจ
ปฏิสนธิ อธิบายว่า เกิดในตระกูลต่ำนั้น. บทว่า มตฺตโส กตํ ได้แก่
กระทำ คือไม่น้อยไม่มาก. บทว่า มนุสฺสโสภคฺยํ ได้แก่ สมบัติ
แห่งตระกูล 3 ตระกูล อันงามเลิศในมนุษย์. บทว่า อธิมตฺตํ ได้แก่
ให้มีประมาณยิ่งหรือให้เข็มแข็ง. บทว่า อธิคณฺหนฺติ ได้แก่ ยึดถือ
อธิบายว่า เป็นผู้ประเสริฐกว่า คือเจริญกว่า.
จบ อรรถกถากิริยาวัตถุสูตรที่ 6